“เรียนรู้ที่จะให้พระเจ้านำ...ท่ามกลางการทนทุกข์”

Life of David  •  Sermon  •  Submitted   •  58:08
0 ratings
· 6 views
Files
Notes
Transcript
Sermon Tone Analysis
A
D
F
J
S
Emotion
A
C
T
Language
O
C
E
A
E
Social
View more →
“เรียนรู้ที่จะให้พระเจ้านำ…ท่ามกลางการทนทุกข์”
คริสตจักรไคร้สตเชิช กรุงเทพ / แองลิกัน ลาดกระบัง
วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม 2022
1 ซามูเอล 23
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Word Count 5,291 ; Time 48 minutes (110 คำต่อนาที)
[Slide# 1]
พระเจ้าสถิตกับท่าน [และสถิตกับท่านด้วย]
ให้เราร่วมใจกันอธิษฐานเพื่อรับพระคำจากพระเจ้าร่วมกันครับ
“พระเจ้าผู้ทรงพระคุณ โปรดประทานหัวใจที่ถ่อม ยินดีรับการสอน และใจที่เชื่อฟัง ในขณะที่ลูกรับการเปิดเผยและสำแดงจากพระคำของพระองค์โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ขอทรงประทานกำลังที่ลูกจะสามารถกระทำตามสิ่งที่พระองค์ทรงเปิดเผยและสำแดง ให้เป็นจริงในชีวิตของลูก ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน”
พี่น้องครับ เรายังร่วมเดินทางไปกับดาวิด ในช่วงเวลาที่ยากลำบากของเขาครับ ในสองบทที่แล้ว บทที่ 21 และ 22 แม้ในขณะที่ดาวิด กำลังอยู่ในช่วงที่ตกต่ำที่สุดในชีวิตของเขา ต้องอพยพครอบครัวของเขาไปอยู่ในดินแดนของชาวโมอับ กลับบ้านก็ไม่ได้ ต้องพลัดพรากจากภรรยา มีคาล ซาอูลยกมีคาล ภรรยาของดาวิดไปให้คนอื่นแล้ว (บทที่ 25:44 “ซาอูลทรงยกมีคาลราชธิดาของพระองค์ ผู้เป็นภรรยาของดาวิด ให้แก่ปัลทีบุตรลาอิชชาวกัลป์ลิมแล้ว”)
คิดจะหนีไปที่พลับพลา พึ่งพาปุโรหิตผู้รับใช้พระเจ้าโดยโกหกปุโรหิตอาหิเมเลค ขออาหารและดาบ จนทำให้เกิดโศกนาฎกรรมที่เมืองโนบ ซาอูลฆ่ายกครัวบรรดาปุโรหิต 85 คน และ ล้างผลาญชาวเมืองโนบ ทั้งเด็ก ผู้ชาย ผู้หญิง เด็กกินนม โค ลาและแกะ ตัวเองเป็นต้นเหตุให้เกิดความพินาศกับครอบครัวอาหิเมเลค เหมือนอย่างที่ ดาวิดได้พูดกับลูกคนเดียวของอาหิเมเลคที่หลบหนีออกมาได้
[Slide# 2]
ในบทที่แล้ว ข้อ 22 “เราเองเป็นเหตุแห่งความตายของทุกคนในพงศ์พันธุ์บิดาของท่าน” สถานการณ์ดูเหมือนบีบบังคับให้ดาวิดต้องโกหกกับอาหิเมเลค ดาวิดคงไม่กล้าหนีไปหาเพื่อน เพราะรู้อยู่แล้วว่า ซาอูลกำลังจับตามองอยู่ หูตาของซาอูลมีอยู่ไปทั่ว คงคิดว่าหนีไปที่พลับพลา หาปุโรหิต ซาอูลคงไม่กล้าทำอะไรปุโรหิตผู้รับใช้พระเจ้า แต่ดาวิดคงคิดไม่ถึงว่า ซาอูลจะบ้าคลั่งถึงขนาดสั่งฆ่าปุโรหิต ผู้รับใช้พระเจ้าได้ลงคอ
ต้องระหกระเหินพลัดถิ่น ไปหลบซ่อนตัวอยู่ในดินแดนของฟีลิสเตีย พอถูกจับได้ ก็เลยต้องแกล้งเป็นคนบ้าเสียสติ น้ำลายยืดมาถึงเครา เพื่อรักษาชีวิตของตนเองไว้ หมดสภาพเลย ดาวิด แม่ทัพใหญ่แห่งอิสราเอล คงทั้งอับอาย ทั้งกลัว
[Slide# 3]
บทที่ 22 ดาวิดก็หนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ถ้ำอดุลลัม อยู่บริเวณชายแดนระหว่างอิสราเอลกับฟีลิสเตีย และที่นั้น พระคัมภีร์บันทึกว่า มีผู้คนกว่า 400 คน มาขอลี้ภัยอยู่ด้วย ในบทที่แล้ว ข้อ 2 “...ทุกคนที่มีความทุกข์ยาก และทุกคนที่มีหนี้สิน และทุกคนที่ไม่พอใจก็รวมกันมาหาท่าน และท่านก็เป็นหัวหน้าของพวกเขา....”
พี่น้องครับ ความทุกข์ยากลำบากสามารถเกิดขึ้นได้ครับ กับผู้เชื่อ ผู้เชื่อที่สัตย์ซื่อกับพระเจ้า
ให้เราระวังคำสอนว่า มาเป็นคริสเตียนแล้ว พระเจ้าจะอวยพรให้ชีวิตดีขึ้น จำเริญขึ้น ไม่มีความเจ็บป่วย ไม่มีความยากจน ชีวิตจะไม่มีปัญหา และถ้าเกิดชีวิตมีปัญหาขึ้นมา เจ็บป่วยขึ้นมา ก็บอกว่าเพราะเราขาดความเชื่อ หรือเราทำบาป พระเจ้าจึงอวยพรเราไม่ได้ เป็นคำสอนที่ไม่สมดุลครับ ไม่จริงนะครับ พี่น้องดูตัวอย่างดาวิด ดาวิดไม่ได้ทำสิ่งใดผิด รับใช้ซาอูลด้วยความจงรักภักดี ดาวิดรักพระเจ้า และความจริงดาวิดอยู่ในแผนการความรอด พระเจ้าด้วย ผ่านดาวิด พงศ์พันธุ์ของท่าน จะให้กำเนิด กษัตริย์พระเมสิยาห์ พระเยซูคริสต์ ดาวิดก็ต้องเผชิญกับความทุกข์ยากลำบาก ดาวิดต้องหลบหนีซาอูลไม่ใช่แค่ไม่กี่สัปดาห์นะครับ
พี่น้องทราบมั้ยครับ ว่า ดาวิดใช้เวลากี่ปี ตั้งแต่ ซามูเอลมาบอกกับพ่อของดาวิด และเจิมดาวิดเป็นกษัตริย์คนต่อไปจากซาอูล จนกระทั่งดาวิดเป็นกษัตริย์ปกครองเหนือยูดาห์ ? คิดว่ากี่ปีครับ
ประมาณ 15 ปีครับ และ ต้องใช้เวลาอีก 7 ปี กว่าจะได้รับการยอมรับให้เป็นกษัตริย์ปกครองเหนืออิสราเอลทั้งหมด รวมเวลาประมาณ 22 ปี แล้วพี่น้องรู้มั้ยครับ ว่าดาวิดใช้เวลาเท่าไหร่ครับ ในการหลบหนีจากไล่ล่าจากซาอูล ต้องอยู่อย่างคนพลัดถิ่น ในถิ่นทุรกันดาร มากกว่า 10 ปีครับ
พี่น้องครับ เราเคยต้องทนทุกข์มากกว่า 10 ปีมั้ยครับ หลายคนอาจจะไม่เคยนะ แต่พระเจ้าอนุญาติให้ดาวิดต้องเผชิญและผ่านความทุกข์ลำบากอย่างยาวนาน พี่น้องคิดว่าเพราะอะไรครับ ?
[Slide# 4]
ใน 2 ซามูเอล 5: 4 บอกว่าดาวิดขึ้นเป็นกษัตริย์อายุ 30 ปี และปกครองบังลังก์อยู่ 40 ปี พระเจ้าใช้เวลา 10 กว่าปีที่ดาวิดต้องอยู่ในความยากลำบาก ในถิ่นทุรกันดาร เพื่อเตรียมชีวิตของดาวิด ตามการทรงเรียกของพระองค์ พี่น้องครับ บทเพลงสดุดี จำนวนหนึ่ง ก็มาจากช่วงที่เวลานี้แหละครับ ที่ดาวิดลำบากอยู่ในถิ่นทุรกันดารของชีวิต สดุดี ที่แต่งจากชีวิตจริง สดุดี 59, 56, 57, 142, วันนี้ สดุดี 54, 31, 63 หลังจากที่เขาได้ตกผลึกกับพระเจ้า ได้ไตร่ตรองผ่านความทุกข์ยากลำบาก พระเจ้าใช้ถิ่นทุรกันดาร เพื่อที่ดาวิดจะรู้จักตัวเอง ว่าเขาก็ไม่ได้เป็นคนดีเพียบพร้อม สมบูรณ์แบบ ยามคับขันก็บีบให้ต้องโกหก ให้รู้จักถ่อมใจ พึ่งพาพระเจ้า มีทีมงานที่เป็นเหมือนเพื่อนตาย ได้เพื่อนร่วมรบก็ในยามยากลำบาก
พี่น้อง วันนี้ มีใครที่กำลังมีชีวิตที่ยากลำบากแบบดาวิดมั้ยครับ ใครที่ต้องอยู่ในความยากลำบากยาวนานแบบดาวิดมั้ยครับ มากกว่า 10 ปี ความยากลำบาก หรือ ถิ่นทุรกันดารในชีวิตของเรา ไม่ว่าจะเป็นการที่เรายังคงจมอยู่กับภาวะซึมเศร้า อยู่กับความผิดหวัง คำอธิษฐานที่พระเจ้ายังไม่ตอบ อยู่กับคำถามที่พระเจ้าไม่ตอบ คำตอบกลับคือความเงียบ ว่างงานมาระยะหนึ่งแล้ว ยังหางานทำไม่ได้ สมัครไปที่ไหนก็ยังไม่มีการตอบรับ อยู่กับปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัว ปัญหาสุขภาพเรื้อรัง
[Slide# 5]
เรียนรู้ที่จะให้พระเจ้านำเราอย่างไร สามเหตุผลของการมีชีวิตอยู่ ท่ามกลางชีวิตที่ทนทุกข์และมืดมิด ในสภาวะที่ดูเหมือนสิ้นหวัง และหมดหนทาง -
(1) ไม่ละทิ้งการทรงเรียก (ข้อ 1-6)
แม้ในขณะที่ดาวิด ตกต่ำ ชีวิตมืดมน และไม่รู้ว่าจะไปอย่างไรต่อ ขนาดครอบครัวตัวเองยังรักษาไว้ไม่ได้
พระเจ้าก็ส่งคนกว่า 400 คน ให้ดาวิดดูแล
พระเจ้าได้ส่งผู้เผยพระวจนะกาด ให้มาบอกดาวิด ให้ออกจากที่กำบังเข้มแข็ง ซึ่งน่าจะอยู่ในโมอับ แล้วกลับไปที่ยูดาห์ ซึ่งดาวิดก็เชื่อฟัง กลับเข้าไปที่ยูดาห์ ไปอยู่ในป่าเฮเรท แม้ดูเหมือนที่โมอับจะปลอดภัยกว่า ดาวิดกับบรรดาคนติดตามดาวิด ซึ่งในบทที่ 23 เพิ่มขึ้นมาเป็น 600 คน แล้วนะครับ จากที่ถ้ำอดุลลัมในบทที่แล้ว ที่มีอยู่ 400 คน
เราไม่รู้ว่าดาวิดดูแลคน 600 คนอย่างไรในป่าเฮเรท คนจำนวนมากที่มาหาดาวิดในสภาพเดียวกับดาวิด พลัดถิ่น ระหกระเหิน เนื่องจากหนี้สิน ไม่พอใจการปกครองของซาอูล ดาวิดคงต้องดูแลคนเหล่านี้ ด้านร่างกายก็ว่ายากแล้ว ไหนจะต้องหาอาหาร น้ำดื่ม ที่หลับที่นอนให้ แล้วไหนดาวิดจะต้องดูแลจิตใจของคนเหล่านี้ที่แหลกสลายด้วย บางคนอาจจะเต็มไปด้วยความขมขื่น ความอับอาย มองตนเองไร้ค่า
เหตุผลของการมีชีวิตอยู่ ในวันที่ดูเหมือนสิ้นหวัง คือ ไม่ละทิ้งการทรงเรียกของพระเจ้าในชีวิตของเรา
ในบทที่แล้ว 22: 2 พระคัมภีร์บันทึกว่า “ดาวิดเป็นหัวหน้าของพวกเขา” คำว่า “หัวหน้า” ภาษาฮีบรูให้ความหมายของ เป็นตัวแทนของกษัตริย์ เป็นผู้ปกครองพวกเขา สำหรับคนเหล่านี้แล้ว ดาวิด คือ ผู้นำ เป็นกษัตริย์ของพวกเขา ในความยากลำบาก ช่วงที่ดาวิดตกต่ำที่สุด พระองค์ส่งคนเหล่านี้มาให้ดาวิดดูแล
ใน 1พงศาวดาร 11 เรียกคนกลุ่มนี้ว่า “นักรบเก่งกล้าของดาวิด Men of Valor” พี่น้องที่รักครับ ดาวิด ดูแลคนเหล่านี้ ปกครองคนเหล่านี้ แม้ว่าดาวิดยังไม่มีตำแหน่งอะไร แม้ว่าอยู่ในช่วงที่ตกต่ำที่สุด ดาวิดยังคง ไม่ละทิ้งการทรงเรียก ยังคงทำหน้าที่ของตนเอง อย่างดีที่สุด เพราะพระเจ้าส่งคนเหล่านี้มาแล้ว
ดาวิดอาจจะเลือกที่บอกคนเหล่านี้ว่า ไม่ต้องมาหาเราหรอก เรายังช่วยตัวเองไม่ได้เลย แล้วเราช่วยพวกคุณได้อย่างไร ไปตามทางของแต่ละคนเถิด ดาวิดมีสิทธิ์ที่จะปฎิเสธคนเหล่านี้ ด้วยความขมขื่นใจ ทุกข์ใจ แต่ท่านไม่ทำ
และในวันนี้ ข้อ 1-6 ยิ่งบอกเราว่า เหตุผลที่พระเจ้าเรียกให้ดาวิดและคนเหล่านี้ 600 คน กลับมาที่ยูดาห์ เพื่อทำภาระกิจคือการช่วยกู้เมืองเคอีลาห์จากการรุกรานของฟีลิสเตีย เราจะสังเกตว่า สิ่งนี้เริ่มต้นจากดาวิด นะครับ พระเจ้าไม่ได้บอกดาวิดให้ไปช่วยกู้เมืองเคอีลาห์ ดาวิดเป็นฝ่ายริเริ่มทูลถามพระเจ้าก่อน
ในข้อที่ 1และ 2 “1พวกเขาบอกดาวิดว่า “ดูสิ พวกฟีลิสเตียกำลังรบเมืองเคอีลาห์อยู่และปล้นเอาข้าวที่ลาน” 2ดาวิดจึงทูลถามพระยาห์เวห์ว่า “ควรที่ข้าพระองค์จะไปต่อสู้กับคนฟีลิสเตียเหล่านี้หรือไม่?” และพระยาห์เวห์ตรัสกับดาวิดว่า “จงไปต่อสู้พวกฟีลิสเตียและช่วยกู้เมืองเคอีลาห์ไว้”
ความจริงแล้วดาวิดและคนของเค้า 600 คน มีเหตุผลร้อยแปดพันประการ ที่จะยังคงเก็บตัวอยู่ที่ป่าในเฮเรท เหมือนอย่างเหตุผลที่คนของดาวิดทูลกับดาวิดในข้อ 3 เมื่อดาวิดมาบอกให้พวกเขาออกไปรบกับดาวิด
ข้อ 3 “3แต่พวกของดาวิดเรียนท่านว่า “ดูสิ พวกเราอยู่ในยูดาห์นี่ก็ยังกลัวอยู่ ถ้าพวกเราขึ้นไปยังเคอีลาห์สู้รบกับกองทัพของฟีลิสเตียเราจะยิ่งกลัวมากขึ้นเท่าใด?”
พวกเขากลัว แน่นอนครับ มองด้วยเหตุผลแล้ว ไม่ควรออกมา อยู่ในที่กำบังในป่าดีกว่า เพราะออกมา ในที่โล่งแจ้ง ไหนจะต้องรบกับฟีลิสเตีย แล้วถ้าซาอูลรู้ เพราะมีสายข่าวไปบอก จะพบกับศึกนอกและศึกใน พวกเขากลัวครับ อีกทั้งคนเหล่านี้เป็นคนที่มีปัญหามาก่อนนะครับ และยังอยู่ในปัญหาของพวกเขา มองอย่างไรก็ไม่พร้อมครับ ทั้งด้านกายภาพ แผนกลยุทธ์ และ จิตใจ
พี่น้องครับ เหตุการณ์นี้เราเห็นหัวใจของดาวิด ครับ ดาวิดไม่ได้บังคับพวกเขา แต่ดาวิดเลือกที่จะกลับไปถามพระเจ้าอีกครั้ง และ พระเจ้าก็ยังคงยืนยันให้ไปปกป้องเมืองเคอีลาห์ และพวกเขาเชื่อดาวิด เขาศรัทธาในตัวดาวิดครับ ปราศจากตำแหน่ง
[Slide# 6]
ในข้อ 4 “4แล้วดาวิดก็ทูลถามพระยาห์เวห์อีก และพระเจ้าตรัสตอบท่านว่า “จงลุกขึ้นลงไปยังเคอีลาห์เถิด เพราะเราจะมอบพวกฟีลิสเตียไว้ในมือของเจ้า”
ดาวิด ไม่ละทิ้งการทรงเรียก ในชีวิตของเค้าครับ แม้ว่าชีวิตของเขาจะเผชิญความตกต่ำ ทุกข์ยากลำบากเพียงใดก็ตาม
ดาวิด ไม่ได้คิดว่า ไม่ใช่หน้าที่ของฉัน เป็นหน้าที่ของซาอูลไม่ใช่หรือ ที่เป็นกษัตริย์โดยตำแหน่งที่ต้องทำหน้าที่ปกป้องเมืองเคอีลาห์
ดาวิด ไม่ได้คิดว่า ไว้ให้เราฝึกคนเหล่านี้ให้พร้อมมากกว่านี้ก่อน ตอนนี้พวกเขายังกลัวอยู่ พวกเขายังไม่พร้อม
ดาวิด ไม่ได้คิดว่า พระเจ้ารอให้ ผมอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัวผมก่อน แล้วผมจะออกไปช่วยเคอีลาห์
ดาวิด ไม่ได้คิดว่า ตอนนี้เราไม่ใช่แม่ทัพแล้ว เราไม่ได้มีตำแหน่งแม่ทัพที่ยิ่งใหญ่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ให้คนที่เป็นแม่ทัพจัดการไปเถอะ
ซาอูลแทนที่จะทำหน้าที่กษัตริย์ ปกป้องอิสราเอล วันนี้ ซาอูลใช้ตำแหน่งกษัตริย์ที่พระเจ้ามอบให้กับเขา ฆ่าปุโรหิต ผู้รับใช้พระเจ้าที่เมืองโนบ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อิสราเอลที่เมืองโนบ พระคัมภีร์บันทึกว่า ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก เด็กที่กำลังกินนมแม่ และฝูงสัตว์ต่างๆ
ในขณะที่ ดาวิด ที่กำลังทนทุกข์อย่างแสนสาหัส เลือกที่ออกมาทำหน้าที่ กษัตริย์แทนซาอูล แม้ไม่ตำแหน่ง แต่เค้าทำจากหัวใจ ที่รู้ถึง ภาระหน้าที่ตามการทรงเรียกในชีวิตของเค้า
พี่น้องครับ วันนี้ เรายังรักษา ไม่ทิ้งการทรงเรียกในชีวิตของเรามั้ยครับ แม้ว่าเรากำลังเผชิญกับความทุกข์ในชีวิตของเรา แม้ว่า เรายังผิดหวัง ซ้ำแล้วซ้ำเหล่า พี่น้องครับ การทรงเรียกในชีวิตอของเราคืออะไรครับ
พระคัมภีร์ใหม่ ได้เปิดเผยครับ ว่าเราทุกคนในฐานะผู้เชื่อ มีการทรงเรียกในชีวิตของเราคือ ให้การทรงเรียกให้เข้ามาในแผ่นดินของพระเจ้า ทรงเรียกให้รับความรอดที่พบแล้วในพระคริสต์ และ ให้มีส่วนในแผนงานความรอดด้วยครับ คือ การประกาศและการสร้างสาวก
[Slide# 7]
พี่น้องครับ เมื่อเรารับใช้พระเจ้า เราจะพบว่า “เหตุผลของการมีชีวิตอยู่ ก็เพื่อที่เราจะรับใช้พระเจ้า ทำตามการทรงเรียกให้เราประกาศ และสร้างสาวก คือเหตุผลของการมีชีวิตอยู่ของเราครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพที่เราทนทุกข์และมืดมิด”
[Slide# 8]
โรม 1:6
“6รวมทั้งพวกท่านที่พระเจ้าทรงเรียกให้เป็นคนของพระเยซูคริสต์ด้วย”
[Slide# 9]
โรม 8:28
“28เรารู้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างร่วมกันก่อผลดีแก่คนที่รักพระเจ้า คือแก่คนทั้งหลายที่พระองค์ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์”
[Slide# 10]
1ทิโมธี 2:4
“4พระองค์ทรงประสงค์ให้ทุกคนได้รับความรอดและรู้ความจริง”
[Slide# 11]
2โครินธ์ 5: 17-20
“17ฉะนั้นถ้าใครอยู่ในพระคริสต์ เขาก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งสารพัดที่เก่าๆ ก็ล่วงไป นี่แน่ะกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น 18สิ่งทั้งหมดนี้เกิดจากพระเจ้า ผู้ทรงให้เราคืนดีกับพระองค์โดยทางพระเยซูคริสต์ และประทานพันธกิจในเรื่องการคืนดีนี้แก่เรา 19คือพระเจ้าทรงให้โลกนี้คืนดีกับพระองค์โดยพระคริสต์ ไม่ทรงถือโทษในความผิดของพวกเขา และทรงมอบเรื่องราวการคืนดีนี้ให้เราประกาศ 20เพราะฉะนั้นเราจึงเป็นทูตของพระคริสต์โดยที่พระเจ้าทรงขอร้องท่านทั้งหลายผ่านทางเรา เราจึงวิงวอนท่านในนามของพระคริสต์ให้คืนดีกับพระเจ้า”
ถ้าพระเจ้าส่งใครบางคนเข้ามาในชีวิตของเรา ให้ช่วยกู้เขาตามแผนการทรงเรียกนี้ เราจะทำมั้ยครับ ใครบางคนที่เป็นเหมือนกับคน 600 คน ที่พระเจ้าส่งมาให้ดาวิดดูแล ใครบางคนที่เป็นเหมือน เคอีลาห์ ที่ให้เราได้มีโอกาสช่วยกู้เค้าจากความพินาศ ให้เขาได้รับความรอดในแผ่นดินพระเจ้า ไม่ว่าจะเป็นการไปประกาศ ไปเป็นเพื่อน พี่เลี้ยง ดูแลชีวิตของเขา และสร้างสาวก เราจะทำมั้ยครับ
บางคนอาจจะคิดว่า คล้ายๆดาวิดก็ได้นะที่อาจจะคิดว่า ให้เราอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาในครอบครัวก่อน แล้วจะทำตามการทรงเรียก ให้ปัญหาครอบครัวเราคลี่คลายก่อน แล้วเราจะมาประกาศ และสร้างสาวก รับใช้พระเจ้า
บางคน อาจจะคิดว่า รอให้เรารวยก่อน แล้วจะมารับใช้พระเจ้า ช่วยเหลืองานประกาศ สร้างสาวก
บางคนอาจจะคิดว่า รอให้เราหายป่วยจากโรคซึมเศร้าก่อน แล้วค่อยมารับใช้พระเจ้า
รอให้ลูกโตก่อน แล้วค่อยมารับใช้พระเจ้า ตอนนี้ต้องดูแลลูกก่อน
รอให้มีงานทำก่อน แล้วค่อยมารับใช้พระเจ้า ยังไม่มีงานทำเลย
รอให้เรียนจบก่อน แล้วค่อยมารับใช้พระเจ้า
รอให้ แต่งงาน มีคู่ก่อน แล้วค่อยมารับใช้พระเจ้า
บางคน อาจจะบอกว่าตอนนี้อายุเยอะแล้ว เกษียณแล้ว รับใช้พระเจ้าไม่ได้แล้ว ไม่จริงครับ
บางคน อาจจะบอกว่า ยังเด็กอยู่ ไว้โตขึ้น ค่อยรับใช้พระเจ้า ก็แล้วกัน
ในท่ามกลางความทนทุกข์ อุปสรรคชีวิตที่เราเผชิญ เราสามารถมีเหตุผล เหมือนคน 600 คนนั้นครับ แต่ เป็นน้ำพระทัยพระเจ้าครับที่ให้เรารับใช้พระเจ้า และเราสามารถรับใช้พระเจ้าได้ แม้ไม่มีตำแหน่ง ไม่ต้องมีใครมายกตำแหน่งให้เราก่อน แล้วเราค่อยรับใช้พระเจ้า เหมือนดาวิด มีสถานะเป็นคนพลัดถิ่น หลบหนี เขายังรักษา ไม่ละทิ้งการทรงเรียก
ผมจำได้ ในช่วงปี 2012, 2013 เป็นช่วงที่ผมมีปัญหาอย่างมากในที่ทำงาน แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม ผมยังคงรับใช้พระเจ้าในอัลฟ่าอย่างสัตย์ซื่อ ทำหน้าที่บรรยายหัวข้ออัลฟ่า และ นำกลุ่มย่อย และยังคงนำกลุ่มเซลอย่างสัตย์ซื่อ ไม่ละทิ้งการทรงเรียก
วันนี้ พระเจ้าได้มอบคน 600 คนไว้ให้เราดูแลมั้ยครับ ใครเป็นตัวแทน คน 600 คนนั้นที่พระเจ้าใส่ไว้ในชีวิตของเรา
วันนี้ พระเจ้าให้เราได้ยินอะไรมั้ยครับ พวกเขามาบอกเราว่า ดูสิ พวกฟีลิสเตียกำลังรบเมืองเคอีลาห์อยู่และปล้นเอาข้าวที่ลาน” ใครคือ เคอีลาห์ ที่พระเจ้าใส่ในหัวใจของเราครับ
ถ้าพี่น้องมี คน 600 คน และ เคอีลาห์ ที่พระเจ้าใส่ในหัวใจของเรา ผมอยากให้พี่น้องคนนั้นทำอย่างดาวิด ครับ คือ อธิษฐานถามพระเจ้าครับ ขอให้พระเจ้านำ เพื่อที่เราจะไม่ละทิ้งการทรงเรียก และยังคงมีส่วนในแผนงานความรอดของพระเจ้า การประกาศและสร้างสาวก ท่ามกลาง ความทุกข์ลำบากที่เราเผชิญครับ อาเมนนะครับ
[Slide# 12]
(2) รับการหนุนใจจาก เพื่อนฝ่ายวิญญาณ (ข้อ 16-18; 7-24)
เหตุผลที่สอง ที่สอนเราจากพระคัมภีร์ ให้เรายังคงอดทนต่อสถานการณ์ที่ยากลำบาก เพราะเรามีเพื่อนฝ่ายวิญญาณ ที่พระเจ้าประทานให้ครับ เพื่อนฝ่ายวิญญาณที่หนุนใจเรา ให้ไม่หมดหวัง และยังคงรักษาการทรงเรียกในชีวิตของเราครับ
ตอนที่สอง นี้ หลังจากช่วยกู้เมืองเคอีลาห์แล้ว พระเจ้าได้เปิดเผยกับดาวิดว่า อย่าปักหลักในเมืองเคอีลาห์ ที่เป็นที่ปิด ล้อมรอบด้วยกำแพงเมือง เพราะในที่สุด เมื่อซาอูลรู้ว่าดาวิดอยู่ที่นี่แล้วมากดดัน ชาวเมืองจะมอบดาวิดให้กับซาอูล แน่นอน เพราะซาอูลได้ทำสิ่งที่เรียกว่า เชือดไก่ให้ลิงดูแล้ว แม้แต่เมืองโนบ เมืองปุโรหิตของพระเจ้า ซาอูลก็ไม่ละเว้น นับประสาอะไรกับ เคอีลาห์ ดังนั้นเมื่อพระเจ้าสำแดงและนำดาวิด ดาวิดกับกองกำลังของเค้าก็หลบออกไปอยู่ในถิ่นทุรกันดารศิฟที่โฮเรช
ดาวิดกับพวกต้องหนีอีกครั้ง หลบซ่อนตัวในถิ่นทุรกันดาร ดาวิดกับพวกอาจจะเผชิญความสิ้นหวังอีกครั้ง เพราะเคอีลาห์ที่ตัวเองช่วยไว้ ดูเหมือนไม่สำนึกในบุญคุณที่เค้าช่วยไว้เลย ดาวิดอาจจะขมขื่นใจครับ
พี่น้องครับ งานรับใช้พระเจ้า ทำตามการทรงเรียก บางครั้งอาจจะทำให้เราขมขื่นใจได้ครับ เราช่วยเค้าไว้ แต่เค้าไม่เห็นคุณค่า กลับทำร้าย หรือให้ร้ายหรือ มองเราในแง่ร้ายอีกก็มีครับ
ถ้าเราไม่เติบโต เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณเพียงพอ เราก็จะขมขื่นใจได้ครับ เสียใจ ผิดหวัง ครับ แต่ขอบคุณพระเจ้าที่เรายังมี เพื่อนฝ่ายวิญญาณ ที่คอยหนุนใจเรา เตือนสติเราให้ยังคง ยึดมั่น ไม่ละทิ้งการทรงเรียก
ข้อ 16-18 ครับ ดาวิดมีโยนาธาน
“16และโยนาธานราชบุตรของซาอูลลุกขึ้นไปหาดาวิดที่โฮเรช และทำให้ท่านเข้มแข็งขึ้นในพระเจ้า 17โยนาธานพูดกับท่านว่า “อย่ากลัวเลยเพราะว่ามือของซาอูลเสด็จพ่อของฉันจะหาท่านไม่พบ ท่านจะได้เป็นพระราชาเหนืออิสราเอล และฉันจะเป็นที่สองรองจากท่าน ซาอูลเสด็จพ่อของฉันก็ทราบเรื่องนี้ด้วย” 18และทั้งสองก็ทำพันธสัญญาเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ ดาวิดยังค้างอยู่ที่โฮเรช และโยนาธานก็กลับไปวัง”
ดาวิดมีโยนาธานครับ เพื่อนฝ่ายวิญญาณที่พระเจ้าประทานให้ เพื่อนฝ่ายวิญญาณที่ไม่ใช่ เพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว ไว้เวลาเราเหงาเท่านั้นนะครับ บางคน มีเพื่อนครับ แต่ไม่ใช่เพื่อนฝ่ายวิญญาณ
เพื่อนฝ่ายวิญญาณคือเพื่อนที่นำพระคำพระเจ้ามาบอกกับเรา หนุนใจเราให้เรายังคงรักษาการทรงเรียก และเตือนใจเพื่อนให้ระลึกถึงการทรงเรียก และพร้อมที่จะมีส่วนในการสนับสนุนเขาให้เดินไปกับพระเจ้าอย่างมั่นคง นั้นคือ เพื่อนฝ่ายวิญญาณของเรา
เราอาจจะมีเพื่อนในคริสตจักร ที่ไปกินไปเที่ยวด้วยกัน แต่จะมีกี่คนครับ ที่เป็นเพื่อนฝ่ายวิญญาณที่แท้จริง
ส่วนใหญ่จากประสบการณ์ผม พอมีเรื่องเกิดขึ้น เพื่อนที่เราเคยคิดว่าเป็นเพื่อน ถอยห่างออกมาหมดครับ ไม่มีใครอยากจะเข้าไปเกี่ยวข้อง จะพลอยโดนเข้าไปด้วย
ดาวิดก็คงมีประสบการณ์เหมือนกัน เพื่อนดาวิดคงหายหน้าไปหมด ตอนที่มีอำนาจวาสนา มีแต่คนชื่นชอบดาวิด ดาวิดฆ่าคนเป็นหมื่นๆ ตอนนี้ คนเหล่านี้หายไปไหนหมด!!! แต่ขอบคุณพระเจ้าครับ ดาวิดมีโยนาธาน
โยนาธานเสี่ยงชีวิต จากซาอูล หลบพ่อออกมาหาดาวิดในถิ่นทุรกันดาร เขาไม่นั่งเฉยๆ แต่เขาลงทุนลงแรง ออกเดินทางมาหาเราในที่ๆเราอยู่ ในถิ่นทุรกันดารแห่งชีวิตของเรา
เขาหนุนใจเรา “ทำให้ท่าน (ดาวิด) เข้มแข็งขึ้นในพระเจ้า” เพื่อนฝ่ายวิญญาณจะหนุนใจเราให้เราเข้มแข็งกับพระเจ้า ครับ โยนาธาน ประโยคแรกที่พูดกับดาวิด ว่า “อย่ากลัวเลย...” เหมือนประโยคแรกที่พระเจ้ามักจะพูดกับคนของพระเจ้าที่กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก “อย่ากลัวเลย”
โยนาธานพูดต่อว่า มือของซาอูลเสด็จพ่อของฉันจะหาท่านไม่พบ ท่านจะได้เป็นพระราชาเหนืออิสราเอล และฉันจะเป็นที่สองรองจากท่าน ซาอูลเสด็จพ่อของฉันก็ทราบเรื่องนี้ด้วย
ยืนยัน การทรงเรียก เตือนสติดาวิดให้มองไปที่ การทรงเรียก อีกครั้ง ให้ดาวิดมีความเชื่อ และมั่นคงในพระเจ้า
และความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนฝ่ายวิญญาณ ไม่ใช่เฉพาะแค่คนสองคนเท่านั้นครับ แต่มีพระเจ้าเป็นศูนย์กลางในความสัมพันธ์ครับ โยนาธานและดาวิดในข้อที่ 18 ครับ 18และทั้งสองก็ทำพันธสัญญาเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์
นี่เป็นการพบกัน ครั้งสุดท้ายครับ ระหว่างดาวิด กับโยนาธาน ถัดจากนี้ โยนาธาน ตายในสนามรบกับฟีลิสเตียครับ ไม่ทันได้อยู่เป็นลำดับที่สองต่อจากดาวิด อย่างที่ท่านหวังไว้ เพื่อนฝ่ายวิญญาณต้องการสนับสนุนเพื่อนด้วยกันในงานรับใช้พระเจ้าครับ
พี่น้องมีเพื่อนฝ่ายวิญญาณแบบโยนาธานมั้ยครับ ในช่วงเวลาที่เราทุกข์ยากลำบาก ทนทุกข์ อยู่ในถิ่นทุรกันดารแห่งชีวิต เราต้องการเพื่อนฝ่ายวิญญาณครับ พระเจ้าไม่ได้ให้เราอยู่โดดเดี่ยวตามลำพัง ผู้เชื่ออยู่โดดเดี่ยวลำพัง ไม่ดีครับ แต่เราต้องการเพื่อนฝ่ายวิญญาณ แบบโยนาธาน ครับ ที่อุ้มชูเราขึ้น ให้เรายังคงเดินกับพระเจ้าอย่างมั่นคง
เพื่อนฝ่ายวิญญาณคนนั้น อาจจะเป็นพี่เลี้ยงเรา เพศเดียวกับเรา ถ้ายังไม่มี ให้เราอธิษฐานขอ จากพระเจ้าครับ เราจะมีแน่นอน พระเจ้าจะประทานให้อย่างแน่นอน
ในช่วงเวลาที่ผมเรียนพระคริสตธรรมที่สิงคโปร์ ผมมีความเหงามาก ต้องห่างจากครอบครัว คนที่เรารัก การเรียนที่หนักมาก ผมต้องอ่านหนังสือเรียกได้ว่า แทบจะตลอดเวลาที่ผมมีเวลา การเรียนที่นั้นยากมากครับ ไม่ใช่ว่าใครจะเรียนจบอย่างดีได้นะครับ ผมเหงามาก และ เนื่องจากผมไปเรียนที่นั้น ผมไปเรียนแบบคนที่มีประสบการณ์ทำงานแล้วไปเรียน ต้องอยู่ในหอพักกับเด็กวัยรุ่น เราพูดอะไรไป พวกเขาไม่เข้าใจครับ วัยห่างกันมาก ตลอดปีหนึ่งผ่านไปด้วยความยากลำบาก ทนทุกข์ครับ ผมบอกกับคนสนิทๆที่นั้นตลอดว่า ผมเรียนเป็นเทอมๆ ผมกลับบ้านมาปีละสองครั้ง ช่วงปิดเทอม มีความเป็นไปได้อย่างมากว่า ผมจะไม่กลับไปอีก ผมอธิษฐานขอเพื่อนฝ่ายวิญญาณที่จะเข้าใจผม และหนุนใจให้ผมไปต่อได้จนจบ
ขอบคุณพระเจ้า พระเจ้าประทานให้จริงๆ มีบางคนในกลุ่มเซล คนทำงานที่ได้มีโอกาสได้ใช้เวลาด้วยทุกสัปดาห์ พระเจ้าประทานเพื่อนสองคน ที่เป็นคนสิงคโปร์ ที่มี profile เหมือนผมเลย ทำงานในบริษัทฯ ที่มั่นคง มีหน้าที่การงานที่ดี ถวายตัวออกมารับใช้พระเจ้าเต็มเวลา มันเหมือนกับเราได้พบคนที่เหมือนกับเรา พูดภาษาเดียว หนุนใจให้เรียนจนจบ หนุนใจให้ยังคงทำตามการทรงเรียก ให้สำเร็จ เหมือน โยนาธานที่หนุนใจดาวิด คนหนึ่งในนั้นสถาปนาเป็น Priest ไปแล้ว และอีกคนหนึ่ง เราจะเข้าร่วมสถาปนาด้วยกัน ปลายปีนี้ ถ้าพระเจ้าเมตตา และเป็นพระประสงค์จากพระเจ้า
ผมหนุนใจพี่น้องครับ ถ้าเรายังไม่มี ให้เราอธิษฐานขอจากพระเจ้าครับ เราเดิน รับใช้พระเจ้า โดดเดี่ยวไม่ได้ครับ เราต้องการเพื่อนฝ่ายวิญญาณครับ โดยเฉพาะในช่วงที่เราอยู่ในถิ่นทุรกันดารแห่งชีวิต เพื่อนฝ่ายวิญญาณคนนั้น อาจจะเป็นบางคนในกลุ่มเซล กลุ่มแคร์ของเราก็ได้ครับ
[Slide# 13]
(3) รับการจัดเตรียมและปกป้องจากพระเจ้า (ข้อ 5, 16 และ 25-29)
ข้อ 5 “5และดาวิดกับพวกของท่านก็ไปยังเคอีลาห์ต่อสู้กับพวกฟีลิสเตีย นำเอาฝูงปศุสัตว์ของพวกเขาไป และทำให้พวกเขาสูญเสียมาก ดังนั้นดาวิดก็ได้ช่วยกู้ชาวเมืองเคอีลาห์ไว้”
แม้เคอีลาห์ จะไม่ช่วยดาวิด แต่อย่างน้อยที่สุด การรบกับฟีลิสเตีย ดาวิดก็สามารถกวาดต้อนฝูงปศุสัตว์มาจากฟีลีสเตียครับ การจัดเตรียมจากพระเจ้าด้านกายภาพครับ ประทานการเลี้ยงดูดาวิดและคนอีก 600 คน ผ่านฝูงปศุสัตว์ของฟีลีสเตีย ดาวิดกับพวกคงได้กิน เนื้อย่าง สเต๊ก T Bone ดีๆ และผมเชื่อเหลือเกินว่า ชาวเมืองเคอีลาห์ก็คงต้องให้ธัญพืช ข้าวสารเลี้ยงดูดาวิดและพวก แม้จะไม่ได้มีบันทีกไว้ก็ตาม
พระเจ้าจัดเตรียมให้ดาวิดครับ การเลี้ยงดูท่ามกลางความขัดสน เมื่อดาวิดตัดสินใจ ยังคงอยู่ในการทรงเรียก รับใช้พระเจ้า
[Slide# 14]
ข้อที่ 16 ครับ
“16และโยนาธานราชบุตรของซาอูลลุกขึ้นไปหาดาวิดที่โฮเรช และทำให้ท่านเข้มแข็งขึ้นในพระเจ้า”
พระเจ้าจัดเตรียม กำลังใจ การหนุนน้ำใจ ผ่านเพื่อนฝ่ายวิญญาณ โยนาธานครับ
ในยามที่เราต้องประสบกับความยากลำบาก ขัดสน ยากจน นอกจากการเลี้ยงดูกายภาพแล้ว เรายังต้องการกำลังใจ การหนุนใจ พระเจ้าประทานเพื่อนฝ่ายวิญญาณให้ดาวิดครับ ทำให้ท่านเข้มแข็งขึ้นในพระเจ้า
[Slide# 15]
ข้อ 25-29
“25ซาอูลกับพวกของพระองค์ก็ค้นหาท่าน มีคนบอกดาวิด ท่านจึงลงไปยังศิลาและอยู่ในถิ่นทุรกันดารมาโอน เมื่อซาอูลทรงทราบก็ทรงติดตามดาวิดไปในถิ่นทุรกันดารมาโอน 26ซาอูลเสด็จไปฟากภูเขาข้างหนึ่ง ดาวิดกับพวกของท่านอยู่ที่ภูเขาอีกฟากหนึ่ง ดาวิดก็รีบหนีไปจากซาอูล เพราะซาอูลกับพวกของพระองค์ล้อมเข้ามาใกล้ดาวิดกับพวกของท่านเพื่อจะจับ 27แต่มีผู้สื่อสารคนหนึ่งมาทูลซาอูลว่า “ขอรีบเสด็จกลับ เพราะพวกฟีลิสเตียมาปล้นแผ่นดิน” 28ซาอูลจึงเสด็จกลับจากการไล่ตามดาวิดไปรบกับพวกฟีลิสเตีย เขาจึงเรียกที่นั้นว่าศิลาพ้นภัย 29ดาวิดก็ขึ้นไปจากที่นั่นไปอาศัยในที่กำบังเข้มแข็งแห่งเอนเกดี”
ดาวิดเข้าตาจนแล้วครับ เล่นเกมส์ซ่อนหากับซาอูลและมีโอกาสเหลือเกินที่จะไม่รอดแล้ว พระเจ้าประทานการปกป้องครับ ส่งฟีลิสเตียให้มารบก่อกวนอิสราเอล จนซาอูลต้องหยุดภารกิจตามล่าดาวิด แม้ว่าอีกนิดเดียวก็จะเจอดาวิด ฆ่าดาวิดได้แน่ๆ ทำให้ดาวิดมีเวลาหนีหลบเข้าไปที่เอนเกดี ที่มีถ้ำมากมาย ให้หลบอยู่ และเขาเรียกสถานที่แห่งนั้นครับ ว่า “ศิลาพ้นภัย” เพราะพระเจ้าปกป้องดาวิดอย่างอัศจรรย์ เกินกำลังและควาเข้าใจ และการควบคุมของมนุษย์
[Slide# 16]
สามเหตุผลของการยังคงมีชีวิตอยู่ ท่ามกลางความทุกข์ยากลำบากในชีวิตของเรา เรียนรู้การนำจากพระเจ้าให้เรายังคงมีชีวิตอยู่ต่อไป แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เหมือนสิ้นหวัง หมดกำลังใจ
ไม่ละทิ้งการทรงเรียก พระเจ้ายังมีงานให้เราทำครับ พี่น้อง เรียกเราให้เข้าสู่แผ่นดินของพระเจ้า รับความรอดที่พบแล้วในพระคริสต์ และ เรียกเรา ให้มีส่วนในแผนงานความรอดในชีวิตของเราด้วยครับ ให้เราได้ รับการสร้างสาวก ได้ประกาศ และสร้างสาวก อะไรคือ คน 600 คน เคอีลาห์ที่พระเจ้าประทานให้กับเรา ให้เราอธิษฐานทูลถามพระเจ้าครับ
เหตุผลที่สอง เพื่อนฝ่ายวิญญาณ ที่หนุนใจเรา เตือนสติเราให้ไม่ลืมการทรงเรียก งานรับใช้พระเจ้า และเหตุผลที่สามครับ ให้เรายังคงมีชีวิตอยู่ ท่ามกลางความสิ้นหวังคือ พระเจ้าประทานจัดเตรียม การเลี้ยงดู และการปกป้อง เมื่อเรายังคงไม่ละทิ้งการทรงเรียก วันนี้พี่น้องเห็นการจัดเตรียมนี้ในชีวิตของพี่น้องมั้ยครับ ในสภาพถิ่นทุรกันดารในชีวิตของเรา
[Slide# 17]
ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน
Related Media
See more
Related Sermons
See more